กทม.โยนเผือกร้อนให้ ครม.ชี้ขาดต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ หลัง บีทีเอสที่ทำหนังสือทวงหนี้ใน 60 วัน ซึ่งหากไม่ต่อสัญญา รัฐต้องหาเงินให้ กทม.จ่ายหนี้เอกชนกว่า 1.4 แสนล้านบาท
กมธ.คมนาคม จี้ หน่วยงานขยายสัมปทานบีทีเอส ทำความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร
ก่อนหน้านี้ทาง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ได้ทำหนังสือทวงถามหนี้ถึงกรุงเทพมหานคร เรื่องขอให้ชำระค่าจ้างเดินรถและค่าซื้อระบบการเดินรถไฟฟ้าและเครื่องกล พร้อมติดตั้ง ของโครงการรถไฟฟ้าสีเขียว ส่วนต่อขยาย ที่ติดค้างอยู่ภายใน 60 วัน
โดยทาง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ยังอยู่ระหว่างการชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารตลอดสายเป็น 104 บาท ตามคำสั่งของรัฐบาล รวมถึงหนี้ที่ กทม.ต้องจ่ายให้แก่ บีทีเอส ทั้งการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง ค่าจัดซื้อระบบงานเดินรถที่ภายใน 60 วัน มูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลจะพิจารณาว่ามีการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการแลกกับค่าโดยสารที่ถูกลงมาก อัตราสูงสุดไม่เกิน 65 บาท รวมถึงทางเอกชนอย่าง บีทีเอส จะเข้ามารับภาระหนี้ทั้งหมดจนถึงปี 2572 คิดเป็นมูลหนี้รวมกว่า 1.4 แสนล้านบาท
สำหรับทางออกของปมรถไฟฟ้าสายสีเขียวคาดว่าจะออกมาได้ใน 2 รูปแบบ คือ ครม.อนุมัติต่อสัญญาสัมปทาน 30 ปี ปัญหาทุกอย่างสิ้นสุดประชาชนไม่ต้องรับภาระค่าโดยสารเพิ่ม กทม.ได้รับการรับภาระหนี้ค้างชำระ กลับกันหาก แต่หาก ครม.ไม่อนุมัติก็ต้องมองหาเงินทุนมาให้ทาง กทม.เพื่อชำระหนี้ค้างให้แก่เอกชนที่ดำเนินการ
เบื้องต้น คาดว่าทาง ครม.อาจต้องพิจารณาให้เสร็จสิ้นก่อนครบกำหนดเวลา 60 วัน นับจากวันที่มีหนังสือทวงถาม หรือในช่วงเดือนมีนาคม 2564
กทม. ยอมรับ ไม่มีเงินจ่าย 8,000 ล้าน ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย