กระแสลงทุน AI ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนุนความต้องการการใช้ชิปในตลาดมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในช่วงไตรมาส 1/67 มีการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะหุ้น Nvidia ยังคงมีความแข็งแกร่ง มีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า ที่ 26,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 6.12 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่ที่นักวิเคราะห์คาดไว้
อย่างไรก็ดี หุ้น Nvidia ถือว่าเป็นธีมที่น่าลงทุนในระยะยาว ซึ่งกองทุนรวมต่างประเทศ มีการเข้าไปลงทุนและสามารถให้ผลตอบแทนเป็นบวก ขณะที่ในระยะสั้น “นักวิเคราะห์” ระบุว่า อาจประสบกับความผันผวนช่วงแตกพาร์ในสัปดาห์หน้า (10 มิ.ย.2567) ได้
ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด ให้ข้อมูลกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า แม้จะยังมีความเป็นห่วงเศรษฐกิจโลก แต่ในแง่ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ้น Nvidia มีความชัดเจน outlook เป็นไปได้ด้วยดี ขณะที่ Supply Chain ที่เกี่ยวข้องรวมถึงหุ้นในกลุ่ม 7 นางฟ้า มีแนวโน้มราคาหุ้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวผันผวน แต่ทว่าหุ้น 7 นางฟ้า หรือในตลาดหุ้นแนสแด็กปรับตัวลงน้อยมาก และช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 เห็นได้ชัดว่า หุ้นแนสแด็ก perform ดี และแข็งแกร่งหุ้น Old industry
โดยมองว่า หุ้นกลุ่มดังกล่าวมีความน่าสนใจ ซึ่ง บลจ.ทาสิส มีกองทุนที่เข้าไปลงทุนในหุ้นแนสแด็ก และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่โฟกัสมาที่กลุ่ม AI โดยเฉพาะประมาณ 10 ตัว และมีการเข้าไปลงทุนหุ้น Nvidia ประมาณ 2 -3 กองทุน ซึ่งที่ผ่านมาผลตอบแทนเป็นบวก โดยเฉลี่ยช่วง 5 เดือนอยู่ที่ประมาณ 10%
กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค.2566 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการฟื้นตัวดังกล่าวมาจากความคาดหวังว่า เงินเฟ้อสหรัฐจะมีการชะลอตัวลง ณ ปัจจุบันได้สะท้อนภาพดังกล่าวไปพอสมควร
โดยปัจจุบันจะเห็นว่า ผลประกอบการออกมาค่อนข้างดี เงินเฟ้อชะลอตัว แต่การจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้ มีตัวแปรที่ทำให้เกิดขึ้นได้ไม่ง่ายนัก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในหลาย ๆ ตัว ยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่
อย่างไรก็ตามจะเห็นว่า ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดเริ่มเห็นสัญญาณของการชะลอตัว เกี่ยวกับตัวเลขของการบริโภค ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สำคัญ เนื่องจากว่า เศรษฐกิจสหรัฐ 70% ของจีดีพีเกี่ยวกับการบริโภค ซึ่งมีความแตกต่างจากประเทศไทย เพราะฉะนั้นพอมีสัญญาณเรื่องของการบริโภคถือว่า มีผลค่อนข้างแรง และทำให้ภาพของตลาดที่ปรับขึ้นมาค่อนข้างมากแต่ยังไม่สามารถทำกำไรอย่างจริงจัง จึงเป็นจุดที่นักลงทุนค่อนข้างลังเล แม้ว่านักลงทุนหลายคนจะเชื่อธีมการลงทุนระยะยาวในกลุ่ม AI และกังวลความเสี่ยงระยะสั้น ที่่อาจมีการขายทำกำไรหรือไม่ นักลงทุนจึงมีการชะลอหรือรอจังหวะ
โดยภาพรวมของการลงทุนในเดือนมิ.ย.2567 หลายปัจจัยนำไปสู่การโยกเงินจากหุ้นไปตราสารหนี้ระยะสั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยจากการบริโภคหรือธนาคารกลางยุโรปที่จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2567 นี้ จึงทำให้นักลงทุนมองว่า โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งก็น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะตอบระยะเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ แต่เมื่อไรที่สหรัฐมีปรับลดอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะเห็นได้ประมาณ 4 – 8 ครั้งในช่วง 2 ปีข้างหน้า จึงทำให้หุ้นมีการรอปรับฐาน โดยภาพตลาดหุ้นในระยะสั้นจึงยังไม่ค่อยมีแรงส่งสักเท่าไร
อย่างไรก็ตาม มองว่า ในระยะกลางภาพรวมของตลาดหุ้นโลกยังดีอยู่ เพียงแต่ว่าในช่วงเดือนมิ.ย. – ก.ค. 2567 เป็นจุดที่นักลงทุนต้องระมัดระวังความผันผวนที่นักลงทุนจะสามารถซื่้อหุ้นได้ในราคาที่ถูกลง
ขณะที่หุ้น AI โดยเฉพาะ Nvidia ระยะไกลมีแนวโน้มทิศทางดี แต่ในระยะสั้นนักลงทุนต้องระมัดระวัง เนื่องจากว่า การปรับขึ้นของหุ้น Nvidia ในรอบนี้ จากผลประกอบการที่ออกมาค่อนข้างดี ซึ่งจะมีการเก็งกำไรจากการแตกพาร์ ซึ่งการแตกพาร์ 1 ต่อ 10 จะมีผลประมาณวันจันทร์ที่ 10 มิ.ย.2567 นี้ จาก 1,000 เหรียญดอลลาร์ จะเหลือที่ 100 เหรียญดอลลาร์ เพราะฉะนั้นจะทำให้นักลงทุนที่มีหุ้น Nvidia เยอะ อาจจะมีการทยอยขายออกมาบ้างเพื่อทำกำไร และด้วยความที่เป็นหุ้นใหญ่จึงต้องมีความระมัดระวังจะเป็นตัวฉุดให้หุ้นสหรัฐผันผวนได้ในสัปดาห์หน้า
สำหรับกองทุนหุ้นสหรัฐ 10 กองแรกที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปี 2567 อยู่ที่ 17.89% ซึ่งส่วนใหญ่มีการเข้าไปลงทุนหุ้น Nvidia โดย “กรุงเทพธุรกิจ” สำรวจข้อมูลจาก morningstarthailand ณ วันที่ 30 พ.ค.2567
1.บลจ.เกียรตินาคินภัทร
กองทุนเปิดเคเคพี NDQ100 – UNHEDGED หน่วยลงทุนชนิดทั่วไป หรือ KKP NDQ100-UH มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 394.48 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 17.89% ลงทุน NVIDIA Corp 7.50% NAV 12.41 บาท
2.บลจ.บัวหลวง
กองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่า หรือ B-USALPHA มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,705.62 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 17.58% ลงทุน NVIDIA Corp 6.84% NAV 10.3473 บาท
3.บลจ.ทิสโก้
กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ อันเฮดจ์ หรือ TUSEQ-UH มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 560.25 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 17.34% ลงทุน NVIDIA Corp 5.97% NAV 27.97 บาท
4.บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย)
กองทุนเปิดทหารไทย US Blue Chip Equity หรือ TMBUSBLUECHIP มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,913.39 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 14.66% ลงทุน NVIDIA Corp 9.78% NAV 24.86 บาท
5.บลจ.กรุงไทย
กองทุนเปิดเคแทม ยูเอส โกรท อิควิตี้ ฟันด์ หรือ KT-US-A มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3,203.34 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 13.19% ลงทุน NVIDIA Corp 7.35% NAV 22.43 บาท
6.บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย)
กองทุนเปิด เอไอเอ ยูเอส 500 อิควิตี้ ฟันด์ หรือ AIA-US500 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3,277.09 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 9.40% ลงทุน NVIDIA Corp 5.28% NAV 12.74 บาท
7.บลจ.กสิกรไทย
กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดสะสมมูลค่า K-USXNDQ-A(A) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3,215.57 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 9.39% ลงทุน NVIDIA Corp 7.63% NAV 33.04 บาท
8.บลจ.กสิกรไทย
กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส พาสซีฟ-A ชนิดสะสมมูลค่า K-US500X-A(A) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,895.06 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 9.23% ลงทุน NVIDIA Corp 5.74% NAV 11.63 บาท
9.บลจ. พรินซิเพิล
กองทุนเปิดพรินซิเพิล ยูเอส อิควิตี้ ชนิดผู้ลงทุนพิเศษ หรือ PRINCIPAL USEQ-X มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 559.56 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 9.08% ลงทุน NVIDIA Corp 5.42% NAV 11.18 บาท
10.บลจ.ทิสโก้
กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป หรือ TISCOUS-A มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 938 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 9.06% ลงทุน NVIDIA Corp 6.08% NAV 44.69 บาท