วิเคราะห์การเมือง-กลยุทธ์ ความสงบ ของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สยบ ต่อ ‘ปรปักษ์’

เด่นชัดยิ่งว่า “กลยุทธ์” ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คือ หลีกเลี่ยงการปะทะ ต่อยตี

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ขอให้ดูกรณีของ “กรุงเทพกลางแปลง” เป็นตัวอย่าง ไม่ว่าจะมีการโจมตีด้วยเรื่องจอละ 8 ล้านบาท ไม่ว่าจะมีการสกัดขัดขวางออกจาก “หัวลำโพง”

ข่าวแนะนำ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ไม่ยอมเข้าไปร่วมในการต่อสู้นั้น

ตรงกันข้าม แถลงโดยทันทีไม่ว่าจะจากผู้ว่าฯ หรือรองผู้ว่าฯ กทม. คือ ยอมรับในดุลพินิจอันมาจากการรถไฟแห่งประเทศไทย

นั่นก็คือ เปลี่ยนจาก “หัวลำโพง” ไปยัง “ที่อื่น”

 

ยิ่งหากย้อนไปยังท่าทีจาก “รัฐมนตรี” บางคนจากพรรค “พลังประชารัฐ” ยิ่งชัดเจน

ไม่ว่าคำกล่าวที่ว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เก่งในเรื่อง “พีอาร์” ไม่ว่าคำกล่าวที่ว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สร้างกระแสได้เฉพาะในกทม.เท่านั้น

แทนที่จะต่อปากต่อคำ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กลับเงียบ

ผลก็คือ สังคมต่างหากที่ออกมา “อธิบาย” สังคมต่างหากที่แยกแยะให้เห็นว่ารากฐานการเป็น “กระแส” ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ เป็นอย่างไร

คนที่เจ็บร้อนแทน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กลับเป็นประชาชน

 

คนที่ไม่ชอบ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อาจคิดว่ามีแต่เพียง “คนกรุงเทพฯ” ที่ออกมาปกป้อง

คล้ายกับที่แวดล้อมอยู่โดยรอบเป็นเงาสะท้อนแห่งคะแนนเสียงกว่า 1.3 ล้านอันได้มาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม

อาจเป็นเช่นนั้น แต่เชื่อว่าน่าจะมากยิ่งกว่านั้น

เพราะ “กระแส” หนึ่งซึ่งก่อรูปขึ้นอย่างเงียบๆ คือ กระแสเรียกร้องและต้องการให้มีการเลือก “ผู้ว่าราชการจังหวัด” เหมือนกรุงเทพมหานคร

กระแสนี้คือผลจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างแท้จริง

 

ในที่สุดแล้ว กลยุทธ์ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คือใช้ความสงบเข้า “สยบ” อีกฝ่าย

เป็นความสงบที่ไม่เข้าไปปะทะต่อยตีโดยตรง เป็นความสงบอันอยู่บนพื้นฐานแห่งหลักการ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน”

ดึง “มวลชน” มาเป็น “ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก”