13 กุมภาพันธ์ 2564
376
‘ถาวร’ ควง ‘บิ๊กแป๊ะ’ ร่วมมอบทุนการศึกษา-อุปกรณ์กีฬา ให้เยาวชนเขตหนองจอก พร้อมฝากตัวลงเลือกผู้ว่า กทม. ปัดตอบ ‘บิ๊กป้อม’ หนุน
13 ก.พ. 2564 ที่เคหะฉลองกรุง เขต หนองจอก นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยคมนาคม พร้อมด้วย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม.เขตหนองจอก พรรคพลังประชารัฐ นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม.เขตมีนบุรี พรรคพลังประชารัฐ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ ร่วมมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์กีฬาให้นักเรียนในเขตหนองจอก
โดย นายถาวร ระบุว่า ขอฝากให้ชาวหนองจอก-มีนบุรี-ลาดกระบัง ให้พิจารณา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไว้ในอ้อมใจ สำหรับรับใช้ ชาว กทม.
ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ได้รับเชิญจาก นายถาวร ให้มาร่วมงานแข่งขันชกมวย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ปีที่แล้ว และเล็งเห็นว่า เยาวชนควรมีอุปกรณ์กีฬา จึงยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนเครื่องกีฬา ซึ่งทำแบบนี้มาตลอดในระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานระหว่างตำรวจกับประชาชน เช่นเดียวกับวันนี้ ที่อยากสนุบสนุนให้เยาวชนมีอุปกรณ์กีฬาได้ใช้ออกกำลังกาย ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพ
นายถาวรให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าให้การที่สนับสนุน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่มีกระแสข่าวเตรียมลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยระบุว่า ต้องแยกเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่างพรรคการเมืองกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน เพราะเขตหนองจอกนั้นตนเองมีความคุ้นเคยกับนายศิริพงษ์ ที่สนใจกีฬาและจัดแข่งขันชกมวยด้วยกันมาตลอด
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็สนใจกีฬา เพราะเคยเป็นรักบี้มาก่อน จึงมีความคุ้นเคยกัน พอมีกิจจกรรมทึ่เกี่ยวข้องกับกีฬาไม่จำเป็นว่าอยู่พรรคการเมืองใด หากเป็นพรรคพวกกัน เพื่อนกัน ก็จะมาร่วมงานกันเสมอ ดังนั้นต้องแยกเรื่องกีฬากับการเมือง
ส่วนอนาคตหากมีการประกาศจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.จะยังสนับสนุน พล.ต.อ.จักรทิพย์ หรือไม่นั้น นายถาวรกล่าวว่า ตนสนับสนุนทุกคนที่เป็นคนดี และมั่นใจว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ เป็นคนดี แต่เมื่อไหร่ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีมติส่งผู้สมัครในนามพรรค ก็จะต้องอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์และทำตามมติพรรค แต่ขณะนี้เป็นเรื่องของพี่น้องพ้องพี่ เมื่อมีกิจกรรมตรงไหนก็ไปทำร่วมกัน เนื่องจากคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปปัตย์ยังไม่มีมติจะส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ ตนตอบแทนไม่ได้ เพราะไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยอมรับว่า ตัดสินใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แต่ยังไม่ได้พร้อม 100 % ส่วนที่มีการส่ง ส.ค.ส.ให้ชาว กทม.ถือเป็นการสวัสดีปีใหม่ปกติ
เมื่อถามว่า กระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้การสนับสนุน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ในขณะที่นายณัฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธอการ ให้การสนับสนุนส่งนางทยา ทีปสุวรรณ จะกลายเป็นความขัดแย้งหรือไม่นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวกับตน เพราะตนไม่ใช่สมาชิกพรรค แต่ยอมรับมีความสนิท ใกล้ชิด กับ พล.อ.ประวิตร เพราะท่านเคยเป็นผู้บังคับบัญชาสมัยตนดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ส่วนจะสนับสนุนตนหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะพรรคเดียวกัน คนละพวกก็มีเยอะ พวกเดียวกันคนละพรรคก็มี แต่สำหรับตนส่วนใหญ่มีแต่พรรคพวก ดังนั้นจะเลือกใครก็ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.แต่ขอให้เป็นคนดี แต่คนที่จะลงตนก็เชื่อว่าเป็นคนดีทั้งหมด
“จะให้ปฏิเสธว่าไม่รู้จัก พล.อ.ประวิตรก็คงไม่ได้ เพราะท่านเป็นผู้บังคับบัญชา ถ้าบอกว่าไม่รู้จักก็จะเป็นการเนรคุณ ตนไม่ได้ไปขอให้ท่านสนับสนุน เพราะหากไปขอ ก็จะทำให้ท่านต้องอึดอัด ตนไม่ใช่คนที่ชอบสร้างความอึดอัดให้ผู้ใหญ่” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว
ส่วนอนาคตจะเห็นนางทยามาเป็นทีมเดียวกับตนหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุ ยังไม่ทราบ เพราะตนมีประสบการณ์น้อยในสนามการเมือง แต่สมการการเมืองเป็นได้ทุกอย่าง ไม่สามารถวิเคราะห์อนาคตได้ เช่นเดียวกับที่มองว่า ตนและนางทยามีฐานคะแนนเดียวกัน ถ้าลงสมัครทั้งคู่จะตัดคะแนนกัน ได้ยินแต่คนพูดกัน ตนไม่มีประสบการณ์ด้านการเมือง จึงต้องไปถามกูรูทางการเมือง โดยตนอาจจะแพ้ หรือ สอบตกก็ได้ เพราะเป็นสินค้าใหม่ ที่ประชาชนต้องพิจารณาหยิบมาใช้ ประชาชนอาจจะไม่หยิบมาใช้ก็ได้
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ตนอาจเสียเปรียบที่สุด เพราะไม่มีพื้นฐานการเมืองมาก่อน รับราชการตำรวจมาตลอดชีวิต แต่ก็รู้ปัญหาของ กทม. รู้ความต้องการของชาว กทม.และรู้ว่าจะแก้ไขยังไง ซึ่งที่ผ่านมาตนลงพื้นที่มาตลอด แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า ชาว กทม.จะสนับสนุนตนหรือไม่ พร้อมยอมรับเป็นไปได้ คน กทม.อาจจะเบื่อตำรวจ
เพราะผู้ว่าฯคนปัจจุบัน ก็เป็นตำรวจและอยู่มา 4 ปี แต่จุดขายของตนเป็นตำรวจที่มีคุณงามความดี ที่ประชาชนเห็นผลงาน จึงขออย่ามองเหรียญด้านเดียว ซึ่งนายกรัฐมนตรีในอดีตก็มีทั้งตำรวจ ทหารและพลเรือน ส่วนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ ต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาการประกาศรับเลือกตั้ง ขณะที่ตัวนโยบายได้มีการจัดทำไปบ้างแล้ว โดยตนเป็นคนทำเอง คิดเอง จับต้องได้ ไม่ขายฝัน
ส่วนว่าที่ผู้สมัคร นอกจาก นางทยา ยังมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นางรสนา โตสิตระกูล ที่จะลงชิงตำแหน่งนี้ด้วยนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า นักกีฬา เมื่อลงสนามก็ต้องมีความมั่นใจของตัวเอง แต่อยู่ที่ผู้ชมว่าจะเลือกใคร ทั้งนี้ยืนยันว่าหากแพ้ก็ไม่เสียใจ แต่คงขาดโอกาสที่จะช่วยเหลือชาว กทม.เท่านั้นเอง เพราะยังมีความรู้ความสามารถที่จะช่วยพัฒนา กทม.