“กรุงเทพฯ” โดดเด่นเหนือเมืองอื่นๆ ในเอเชีย กลายเป็นตลาดอสังหาฯ ที่ร้อนแรงที่สุด ด้วยค่าเช่าที่พักอาศัยที่พุ่งสูงถึง 18.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จนเข้าใกล้เจ้าเก่าอย่างสิงคโปร์ และฮ่องกง
ในภาพเดิมของใครหลายคนนั้น “สิงคโปร์” และ “ฮ่องกง” มักถูกมองว่าเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่คึกคักที่สุดในเอเชีย แต่ล่าสุดสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ได้เปรียบเทียบ 4 เมืองในเอเชีย คือ นครโฮจิมินห์ แห่งเวียดนาม, กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย, กรุงเทพมหานคร และกรุงมะนิลาในฟิลิปปินส์ พบว่าเมืองเหล่านี้กำลังขึ้นไล่จี้สิงคโปร์ และฮ่องกง โดย “ค่าเช่าที่อยู่อาศัย” ของเมืองเหล่านี้ถีบตัวขึ้นในอัตราเร่งสูง
รายงานของ โจนส์ แลง ลาซาลล์ –เจแอลแอล) บริษัทที่ทำธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลกชี้ว่า ค่าเช่าที่พุ่งขึ้นในเมืองเหล่านี้เกิดขึ้นจากความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานที่ยังคงแข็งแกร่ง อีกทั้งอัตราการกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศ และจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาก็เพิ่มขึ้นด้วย โดย “4 เมือง” ที่มีการเติบโตด้านค่าเช่าที่โดดเด่น มีดังนี้
1. กรุงเทพฯ ประเทศไทย
การเติบโตของค่าเช่าที่พักอาศัยในไตรมาส 1 ปี 2567 (เทียบกับปีที่แล้ว): +18.1%
อัตราค่าเช่าเฉลี่ย: 8,292 บาทต่อตารางเมตรต่อปี
โรดี้ อัลแลน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ JLL กล่าวว่า ความต้องการเช่าที่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่สูงขึ้น มาจากตลาดคอนโดมิเนียมหรูที่เติบโตขึ้นมา รวมถึงได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทย
นอกจากนี้ ราคาขายอสังหาริมทรัพย์ หนี้สินครัวเรือนที่สูงขึ้น ประกอบอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ลงโดยง่าย ได้กระตุ้นให้เกิดความต้องการเช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยรายงาน JLL ประเมินว่า ภายในสิ้นปี 2567 อาจมีคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอีก 2,800 ยูนิตจาก 12 โครงการในกรุงเทพฯ จนอาจเป็นแรงกระตุ้นการเติบโตของค่าเช่าให้สูงขึ้นอีก
2. โฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม
การเติบโตของค่าเช่าที่พักอาศัยในไตรมาส 1 ปี 2567 (เทียบกับปีที่แล้ว): +5.9%
อัตราค่าเช่าเฉลี่ย: 4,400 บาทต่อตารางเมตรต่อปี
โรดี้ อัลแลน กล่าวเกี่ยวกับนครโฮจิมินห์ ซิตี้ ว่า เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเป็นตลาดที่ประสบความสำเร็จในแง่ของที่อยู่อาศัย โดยค่าเช่าในเมืองเพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรกของปี 2567
การเติบโตของค่าเช่านี้ ได้รับอิทธิพลมาจากราคาเช่าที่สูงขึ้นของโครงการคุณภาพสูงแห่งใหม่ที่เปิดตัวในเมือง
นอกจากนี้ อัลแลนยังกล่าวอีกว่า เรายังเห็นอุปทานโครงการใหม่ที่เปิดตัวในราคาที่ต่ำกว่า และด้วยแรงกดดันด้านอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงมีต่อไป ความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยจึงพุ่งสูงขึ้น
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
3.กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
การเติบโตของค่าเช่าที่อยู่อาศัยในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 (เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว): +4.8%
ราคาเช่าเฉลี่ย: 3,214,555 รูเปียห์ (ประมาณ 7,200 บาท) ต่อตารางเมตรต่อปี
รายงาน JLL ระบุว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยอดขายคอนโดมิเนียมในกรุงจาการ์ตาค่อนข้างซบเซา และในปี 2567 นี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ภาพอนาคตทางการเมืองยังไม่แน่นอน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ยอดขายยังคงไม่คึกคัก
ถึงแม้ยอดขายคอนโดมิเนียมจะชะลอตัวลง แต่อัลแลน กล่าวว่า ความต้องการเช่าในกรุงจาการ์ตายังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดระดับบน
4. กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
การเติบโตของค่าเช่าที่อยู่อาศัยในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 (เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว): +0.8%
ราคาเช่าเฉลี่ย: 9,984 เปโซฟิลิปปินส์ (ประมาณ 6,200 บาท) ต่อตารางเมตรต่อปี
ตลาดเช่าที่อยู่อาศัยในกรุงมะนิลาเติบโตขึ้นในไตรมาสแรก เนื่องจากความต้องการเช่าจากพนักงานระดับผู้บริหาร และชาวต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับอัตราการกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศที่ฟื้นตัว
รายงาน JLL ระบุว่า ความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงาน ค่อนข้างทรงตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนโยบายการกลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี 2567
– กรุงเทพฯขึ้นแท่นเมืองอสังหาฯร้อนแรง (กราฟิก: วิชัย นาคสุวรรณ) –
อ้างอิง: cnbc
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์